โรคจากการทำงาน หมายถึง โรคหรืออาการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุโดยตรงหรือมีความเกี่ยวข้องกับลักษณะงาน หรือสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น โรคกล้ามเนื้อและกระดูกจากท่าทางการทำงานซ้ำๆ โรคระบบทางเดินหายใจจากการสัมผัสฝุ่นและสารเคมี หรือโรคทางจิตเวชจากความเครียดเรื้อรังในที่ทำงาน
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO, 2022) ประเมินว่ามีแรงงานทั่วโลกกว่า 160 ล้านคน ที่ประสบปัญหาโรคจากการทำงานในแต่ละปี โดยในประเทศไทย สถิติจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (2566) พบว่ามีรายงานโรคจากการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ
ทำไมต้องประเมินสุขภาพตัวเองในการทำงาน ?
การประเมินตนเองเพื่อค้นหาความเสี่ยงต่อโรคจากการทำงาน เป็นกลไกสำคัญในการคัดกรองเบื้องต้น โดยเฉพาะในสถานประกอบกิจการที่ยังไม่มีระบบบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยอย่างเป็นระบบ การประเมินความเสี่ยงช่วยให้บุคลากรสามารถรับรู้ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และตัดสินใจเข้ารับคำปรึกษาหรือปรับพฤติกรรมก่อนเกิดอาการเจ็บป่วยหรือการลาป่วยระยะยาว
กลุ่มโรคจากการทำงานที่พบได้บ่อย มีอะไรบ้าง
ประเภทของโรค | สาเหตุหลักจากงาน | กลุ่มเสี่ยง |
---|---|---|
โรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก (MSDs) | การนั่งทำงานนาน ท่าทางซ้ำซาก | พนักงานออฟฟิศ คนงานในสายการผลิต |
โรคระบบทางเดินหายใจ | ฝุ่น ควัน สารระเหย | คนงานในโรงงาน อาชีพก่อสร้าง |
โรคระบบประสาท/จิตเวช | ความเครียด การทำงานไม่เป็นเวลา | พนักงานบริการ แพทย์ พยาบาล |
โรคผิวหนัง | การสัมผัสสารเคมีโดยตรง | พนักงานทำความสะอาด พนักงานแปรรูปอาหาร |
ในการประเมินความเสี่ยงไม่ว่าจะอันตรายต่อสุขภาพ หรือร่างการของพนักงาน นายจ้างควรจัดอบรมความปลอดภัยให้กับพนักงาน ก่อนเริ่มทำงานเพื่อเป้นการปูความรู้พื้นฐาน การทำงานที่ปลอดภัย จุดเสี่ยงที่พนักงานควรระวัง และอื่นๆ เพื่อให้พนักงานสามารถดูแลความปลอดภัยให้กับตนเองได้ในระดับหนึ่ง โดยทั่วไปหลักสูตรนี้จะเรียกว่า “อบรมความปลอดภัย 6 ชม พนักงานใหม่ “
แบบประเมินตนเองเบื้องต้น: เช็กลิสต์ประเมินความเสี่ยงโรคจากการทำงาน
เพื่อให้สามารถประเมินได้ง่ายในเบื้องต้น ผู้เขียนขอเสนอเช็กลิสต์แบ่งตามประเภทของปัจจัยเสี่ยง โดยมีการให้คะแนนตามระดับความถี่ของการสัมผัสหรือประสบปัญหา (1 = ไม่เคย, 5 = เป็นประจำ)
1. ปัจจัยด้านกายภาพและสรีระศาสตร์ (Ergonomics)
-
☐ ฉันนั่งทำงานโดยไม่ขยับตัวเกิน 2 ชั่วโมงติดต่อกัน
-
☐ ฉันมีอาการปวดคอ ไหล่ หลัง หรือข้อมือเป็นประจำ
-
☐ ที่ทำงานของฉันไม่มีอุปกรณ์ที่สามารถปรับระดับให้เหมาะสมกับร่างกายได้
2. ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม (Environment)
-
☐ ฉันทำงานในพื้นที่ที่มีเสียงดังหรือแสงไม่เหมาะสม
-
☐ ฉันสัมผัสกับอุณหภูมิสูง/ต่ำผิดปกติในที่ทำงาน
-
☐ สถานที่ทำงานไม่มีระบบระบายอากาศที่ดีพอ
3. ปัจจัยด้านจิตใจและสังคม (Psychosocial)
-
☐ ฉันรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวลจากงานเกือบทุกวัน
-
☐ ฉันมีปัญหาเรื่องการนอนหลับเพราะความเครียดจากงาน
-
☐ งานของฉันมีความคาดหวังสูง แต่ขาดการสนับสนุนจากผู้บริหาร
4. ปัจจัยด้านสารเคมีและชีวภาพ (Chemical and Biological Hazards)
-
☐ ฉันสัมผัสสารเคมี น้ำยาล้าง หรือฝุ่นขณะทำงาน
-
☐ ฉันไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันขณะปฏิบัติงานกับสารเคมี
-
☐ ไม่มีการติดฉลากหรือคำเตือนเกี่ยวกับสารอันตรายในที่ทำงาน
ผลจากการทำแบบประเมิน
หลังจากให้คะแนนในแต่ละข้อแล้ว ให้นำคะแนนรวมของแต่ละหมวดมาวิเคราะห์เบื้องต้นได้ดังนี้:
-
คะแนนรวม < 20: ความเสี่ยงต่ำ
-
คะแนน 21–35: ควรปรับพฤติกรรม และแจ้งหัวหน้างาน
-
คะแนน > 36: ควรเข้ารับการประเมินโดยแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ หรือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย
ข้อเสนอแนะสำหรับการจัดการความเสี่ยง
การประเมินตนเองเป็นเพียงจุดเริ่มต้น การจัดการความเสี่ยงควรดำเนินควบคู่ไปกับแนวทางปฏิบัติดังนี้:
-
ตรวจสุขภาพตามความเสี่ยง (Risk-based Health Check-up): กำหนดรายการตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคลตามลักษณะงาน เช่น ตรวจสมรรถภาพปอดในผู้ที่ทำงานกับฝุ่น
-
อบรมให้ความรู้เรื่องโรคจากการทำงาน: ให้พนักงานรู้จักสัญญาณเตือนของโรคจากการทำงาน
-
จัดทำระบบการประเมินความเสี่ยงในระดับองค์กร: เพื่อให้มีฐานข้อมูลสำหรับพัฒนานโยบายด้านความปลอดภัย
-
ส่งเสริมสุขภาพจิตในสถานที่ทำงาน (Workplace Mental Health Promotion): เพื่อป้องกันปัญหาเครียดเรื้อรังและโรคทางอารมณ์
สรุป
การประเมินความเสี่ยงโรคจากการทำงานด้วยตนเอง เป็นแนวทางสำคัญในการสร้าง “วัฒนธรรมความปลอดภัย” (Safety Culture) ในสถานประกอบกิจการ โดยเฉพาะในบริบทที่ยังไม่มีระบบดูแลสุขภาพแรงงานแบบองค์รวม การส่งเสริมให้แรงงานมีความรู้ ความตระหนัก และสามารถประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองได้ จะช่วยลดภาระทางสุขภาพ ลดการลาป่วย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาวอย่างยั่งยืน
อ้างอิง
-
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2566). คู่มือการป้องกันโรคจากการทำงาน.
-
สมาคมอาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย. (2565). แนวทางเวชศาสตร์การทำงานฉบับปรับปรุง
-
International Labour Organization. (2022). Work-related diseases.
-
World Health Organization. (2023). Occupational health: Stress at the workplace.
-
Bureau of Occupational and Environmental Diseases, Thailand. (2566). แนวทางการตรวจสุขภาพตามความเสี่ยงของโรคจากการทำงาน