Home » พฤติกรรมเสี่ยง (Unsafe Acts) กับสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย (Unsafe Conditions) ในโรงงาน

พฤติกรรมเสี่ยง (Unsafe Acts) กับสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย (Unsafe Conditions) ในโรงงาน

by admin
57 views

ความปลอดภัยในการทำงาน ถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงงานที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องจักร วัตถุอันตราย หรือแม้แต่การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามจากสถิติอุบัติเหตุในการทำงานจำนวนมากพบว่า สาเหตุหลักเกิดจาก พฤติกรรมเสี่ยง (Unsafe Acts) ของพนักงาน และ สภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย (Unsafe Conditions) ซึ่งหากไม่ตระหนักรู้และไม่จัดการอย่างเหมาะสม จะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ความหมายของพฤติกรรมเสี่ยง (Unsafe Acts)

พฤติกรรมเสี่ยง หมายถึง การกระทำของบุคคลที่อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุในการทำงาน โดยเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบด้านความปลอดภัยหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

ตัวอย่างพฤติกรรมเสี่ยงในโรงงาน

  • ไม่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) เช่น หมวกนิรภัย แว่นตานิรภัย ถุงมือ

  • ใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์โดยไม่ผ่านการฝึกอบรม

  • ล้อเล่นในพื้นที่ทำงาน เช่น วิ่ง กระโดด หยอกล้อกันขณะทำงาน

  • ใช้เครื่องมือไม่เหมาะสมกับลักษณะงาน

  • ทำงานในสภาพร่างกายไม่พร้อม เช่น ง่วงนอน มึนเมา

  • ปิดหรือดัดแปลงอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เซ็นเซอร์ เครื่องกั้นนิรภัย

สถิติอุบัติเหตุโรงงาน

จากสถิติของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พบว่า กว่า 80% ของอุบัติเหตุในโรงงานเกิดจากพฤติกรรมของคน มากกว่าสาเหตุจากเครื่องจักรหรือสภาพแวดล้อม

สภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย คือ

ความหมายของสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย (Unsafe Conditions)

สภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย หมายถึง สภาพของสถานที่ เครื่องมือ เครื่องจักร หรือสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ หรือทำให้พนักงานได้รับอันตรายได้

ตัวอย่างสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย

  • พื้นที่ทำงานลื่น เปียก ไม่มีป้ายเตือน

  • ระบบไฟฟ้าไม่ได้รับการตรวจสอบหรือบำรุงรักษา

  • แสงสว่างไม่เพียงพอในจุดปฏิบัติงาน

  • เครื่องจักรไม่มีฝาครอบนิรภัย

  • เสียงดังเกินระดับที่ปลอดภัย ไม่มีการสวมใส่ที่ป้องกันเสียง

  • วัตถุไวไฟจัดเก็บไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน

ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมเสี่ยง และสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย

ในหลายกรณีอุบัติเหตุไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว แต่เป็นผลมาจากทั้งพฤติกรรมเสี่ยงและสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัยที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน เช่น พนักงานเดินในพื้นที่พื้นลื่น (สภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย) โดยไม่ใส่รองเท้ากันลื่น (พฤติกรรมเสี่ยง) ย่อมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้สูง

ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยง

  1. ขาดการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม
    พนักงานใหม่ที่ยังไม่รู้วิธีการทำงานที่ปลอดภัย อาจใช้อุปกรณ์ไม่ถูกต้องหรือไม่เข้าใจความเสี่ยง

  2. ความเคยชินและความเร่งรีบ
    เมื่อทำงานไปสักระยะ หลายคนอาจเริ่มละเลยขั้นตอนความปลอดภัยเพราะความคุ้นเคย

  3. ขาดการควบคุมกำกับจากหัวหน้างาน
    หัวหน้างานที่ไม่ติดตามหรือไม่มีบทบาทในการเตือน อาจทำให้พนักงานละเลยเรื่องความปลอดภัย

แนวทางป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงและสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย

แนวทางป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงและสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย

1. การฝึกอบรมความปลอดภัย

พนักงานใหม่ทุกคนควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานก่อนเริ่มงาน เช่น การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล การใช้อุปกรณ์อย่างถูกต้อง และการประเมินความเสี่ยงในพื้นที่

2. การสื่อสารภายในองค์กร

การสร้างช่องทางสื่อสารเกี่ยวกับความปลอดภัย เช่น การประชุมความปลอดภัยประจำวัน, ป้ายเตือน, และคู่มือความปลอดภัย

3. ตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์

เครื่องมือและเครื่องจักรต้องได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาตามระยะเวลาอย่างเคร่งครัด

4. เพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน

ควรส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเสนอแนะแนวทางความปลอดภัยในพื้นที่ของตน

5. สอดส่องและลงโทษอย่างเหมาะสม

การบังคับใช้กฎอย่างจริงจังพร้อมทั้งให้รางวัลกับพนักงานที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย

กรณีศึกษา: อุบัติเหตุจากพฤติกรรมเสี่ยง

ในโรงงานแห่งหนึ่ง พนักงานไม่ได้สวมถุงมือขณะทำการเปลี่ยนใบมีดเครื่องตัด ส่งผลให้นิ้วมือถูกใบมีดบาดจนต้องเย็บมากกว่า 10 เข็ม สาเหตุเกิดจากความเร่งรีบและไม่ประเมินความเสี่ยงก่อนปฏิบัติงาน

บทเรียนจากกรณีนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้งานที่ดูเหมือนง่ายและทำเป็นประจำก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หากไม่มีการปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

บทบาทของหัวหน้างานในการควบคุมพฤติกรรมเสี่ยง

บทบาทของหัวหน้างานในการควบคุมพฤติกรรมเสี่ยง

ในโรงงานจะมี หัวหน้างาน ซึ่งในบางสถานประกอบการตำแหน่งนี้จะเป็น จป หัวหน้างาน ที่มีหน้าที่ในการ:

  • ชี้แนะและสาธิตวิธีการทำงานที่ปลอดภัย

  • ตรวจสอบและประเมินสภาพแวดล้อมการทำงาน

  • ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ป้องกันภัย

  • กระตุ้นและสนับสนุนให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัยในทีม

หากพนักงานทุกคนตระหนักและรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของตนเอง จะสามารถลดอุบัติเหตุได้มากถึง 70%

สรุป

พฤติกรรมเสี่ยงและสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัยเป็นสองปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่อุบัติเหตุในโรงงาน การป้องกันต้องเริ่มต้นจากการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยให้แก่พนักงานทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานใหม่ที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด องค์กรควรลงทุนในการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ พร้อมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

ประเด็นเปรียบเทียบ พฤติกรรมเสี่ยง (Unsafe Acts) สภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย (Unsafe Conditions)
ความหมาย การกระทำที่ไม่ปลอดภัยของบุคคล สภาพหรือสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดอันตรายโดยไม่เกี่ยวกับพฤติกรรมคน
ผู้ก่อให้เกิด พนักงาน/บุคคล อุปกรณ์ เครื่องจักร ระบบ หรือโครงสร้างในสถานที่ทำงาน
ตัวอย่าง – ไม่ใส่ PPE
– เล่นโทรศัพท์ขณะทำงาน
– ทำงานเร็วเกินไป
– พื้นลื่น
– สารเคมีรั่ว
– ระบบไฟฟ้าชำรุด
ความสามารถในการควบคุม/ปรับปรุง ควบคุมได้โดยการฝึกอบรม/ปลูกฝังพฤติกรรม ควบคุมได้โดยการตรวจสอบ บำรุงรักษา และออกแบบสภาพแวดล้อม
ความถี่ในการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับคน มักเป็นสิ่งที่คงอยู่ จนกว่าจะมีการแก้ไข
แนวทางการป้องกัน สื่อสาร ฝึกอบรม และสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ตรวจสอบ ตรวจวัด และบำรุงรักษาตามระยะ

เริ่มต้นสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรของคุณตั้งแต่วันแรกของพนักงานใหม่!

อบรมเซฟตี้.com พร้อมจัดอบรมโดยทีมวิทยากรมืออาชีพ ให้บริการฝึกอบรมพนักงานใหม่ 6 ชั่วโมง ทั้งแบบ In-house และ Public Training

ติดต่อเราเพื่อวางแผนหลักสูตรที่เหมาะสมกับโรงงานของคุณ ได้ที่
📞 โทร: (064) 958 7451 คุณ.แนน
📧 อีเมล: [email protected]


บทความที่น่าสนใจ

You may also like

บริษัท เซฟตี้เมมเบอร์ จำกัด

ใบรับรองมาตรฐาน ISO

ข่าวสารใหม่

Copyright @2025 อบรมเซฟตี้ Developed website and SEO by iPLANDIT